Blue Phoenix X-Caliber
เป็นฟิล์มนาโนเซรามิคที่เสริมเพิ่มความเข้มข้นของ ATO (Antimony Tin Oxide) และ Tungsten เข้าไปมากกว่ารุ่นปกติ ทำให้ได้ฟิล์มลดความร้อนสูง ที่สามารถตัดรังสีอินฟราเรดในช่วง 780-2500 นาโนเมตร ได้มากกว่า 98% ทำให้สามารถลดความร้อนได้สูง โดยไม่ทำให้รู้สึกแสบร้อนวูบวาบ จากการแผ่ของคลื่นรังสีอินฟราเรด ที่มาจากแสงแดดเหมือนฟิล์มเซรามิคทั่วไปไม่บล็อคการทำงาน ของคลื่นการสื่อสารทุกชนิด เช่น 4G, 5G, GPS หรือ Easy pass และไม่ขุ่นมัวหลังจากการติดตั้ง Smart Tec Blue phoenix X-Caliber จะดูทึบเมื่อมองจากด้านนอกเข้าด้านใน และจะมองดูสว่าง สบายตาและมีทัศนวิสัยที่ดีกว่า เมื่อมองจากด้านในออกด้านนอก

ทำไม Phoenix X-Caliber จึงลดความร้อนได้ดีโดยไม่รู้สึกร้อนวูบวาบเหมือนฟิล์มเซรามิคทั่วไป ?
โดยปกติทั่วไปการลดรังสีอินฟราเรดของฟิล์มจะสามารถลดและระบุค่าการลดรังสีอินฟราเรดสูงสุด แค่จุดใดจุดหนึ่ง จากสารที่ทำการผลิตเท่านั้น เช่น สารบางตัวจะลดรังสีอินฟราเรดได้ 90% ที่ความยาวคลื่น 900 นาโนเมตร แต่อาจจะลดรังสีอินฟราเรดได้แค่ 80% ที่ความยาวคลื่น 1400 นาโนเมตร และจะลดลงเรื่อยๆ ตามความยาวของคลื่น เป็นต้น จึงทำให้รู้สึกร้อนเป็นช่วงๆ และเนื่องจากอุปกรณ์ในการตรวจวัดมีราคาค่อนข้างจะสูงมาก ส่วนมากจะใช้อุปกรณ์วัดที่เป็นแบบพกพา ซึ่งสามารถตรวจวัดค่ารังสีอินฟราเรด ณ จุดใด จุดหนึ่ง และส่วนมากจะระบุค่าที่สูงที่สุดเท่านั้น


รังสีอินฟราเรดคืออะไร ?
รังสีเอกซ์ รังสีอินฟราเรด หรือรังสีความร้อน เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าชนิดหนึ่งที่แผ่มาจากดวงอาทิตย์ รังสีแม่เหล็กไฟฟ้าจากดวงอาทิตย์นั้นมีหลายชนิด ซึ่งแต่ละชนิดนั้นมีความยาวคลื่นต่างกัน เช่นแสงที่ตามองเห็น (Visible light) มีความยาวคลื่นอยู่ระหว่าง 400-700 นาโนเมตร, รังสีอัลตราไวโอเลต (Ultraviolet radion) มีความยาวคลื่น 1-400 นาโนเมตร, รังสีแกมมา (Gamma ray) มีความยาวคลื่นน้อยกว่า 0.01 นาโนเมตร, รังสีเอกซ์ (X-ray) ความยาวคลื่น 0.01-1 นาโนเมตร เป็นต้น สำหรับรังสีอินฟราเรดมีความยาวคลื่น 700 นาโนเมตร -1 มิลลิเมตร เป็นคลื่นที่มีความถี่ ถัดจากความถี่ของสีแดงลงมา มนุษย์จึงไม่สามารถมองเห็นรังสีอินฟราเรด แต่ก็รู้สึกถึงความร้อนได้โดยดวงอาทิตย์จะมีการแผ่รังสีอินฟราเรดในช่วงตั้งแต่ 780 - 2500 นาโนเมตร

รังสีอินฟราเรดส่งผลเสียอะไรต่อผิวของเราบ้าง ?
โดยทั่วไปเราจะเข้าใจกันว่า เฉพาะรังสียูวีจะเป็นรังสีที่เป็นอันตรายต่อผิวหนัง แต่ความเป็นจริงแล้ว รังสีอินฟราเรดสามารถทะลุชั้นผิวหนังเราเข้าไปได้ลึกกว่ารังสียูวีมาก ซึ่งการทะลุทะลวงเข้าไปยังชั้นใต้ผิวหนัง รังสีอินฟราเรดจะไปทำลายคอลลาเจน (Collagen) และอิลาสติน (Elastin) ทำให้ผิวหนังเกิดปัญหา คือ

ปัญหาฝ้าแดด, ผิวหมองคล้ำ, สีผิวไม่สม่ำเสมอ, การสร้างเม็ดสีผิดปกติ ปัญหาริ้วรอย, เหี่ยวย่น, แก่ก่อนวัย ผิวหนังสูญเสียความยืดหยุ่น มะเร็งผิวหนัง

UVA เจาะเข้าไปได้ถึงชั้นหนังแท้ ทำให้เกิดริ้วรอยถาวร UVB ทำลายผิวหนังชั้นนอกทำให้เกิดอาการแดง แสบ และผิวหมองคล้ำ UVC ถูกกรองที่ชั้นโอโซน (แต่ในปัจจุบันชั้นโอโซนถูกทำลายไปมาก) IR รังสีอินฟราเรด เข้าสู่เซลล์ผิวในระดับเซลล์ ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย (ผิวเหี่ยว)









โปรโมชั่น SMARTTEC6

โปรโมชั่น SMARTTEC5

โปรโมชั่น SMARTTEC4

โปรโมชั่น SMARTTEC3

โปรโมชั่น SMARTTEC2

โปรโมชั่น SMARTTEC
